- ตลาด จะมีการเติบโตเฉลี่ยที่ 8% - 12% (คำนวนจากข้อมูลย้อนหลัง 100ปี
- ตลาดที่ปรับตัวขึ้น จะไม่ขึ้นเป็นเส้นตรง แต่จะมีการแกว่งตัวขึ้นๆลงๆ และเข้าสู่ Sideway และ Downtrend ในที่สุด
- ตลาดที่มีเทรน จะมีสัดส่วนโดยประมาณ 1 ใน 3 ของระยะเวลาของตลาดทั้งหมด
- ตลาดที่มีเทรน จะถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นที่มี Market Capital ที่ใหญ่ ฉุดดึงตลาดขึ้นไป
- ตามมาด้วยหุ้นเล็กๆ
- พอใกล้ๆจะหมดเทรน หุ้นตัวเล็กก็จะหมดแรง และปรับตัวลดลงก่อน
- และจบลงด้วยหุ้นใหญ่นั้นเอง
ดังนั้น การใช้ Market Breadth ค่าความแตกต่างของหุ้นที่ทำ New Low และ New High จะช่วยตรวจสอบสภาพ หรือความแข็งแกร่งของเทรนได้เป็นอย่างดี เช่น ตลาดที่ขึ้นมา แล้วใกล้จะหมดเทรน จะมีจำนวนหุ้นที่ปรับตัวลงมากขึ้น แต่ราคายังคงไปต่อด้วยหุ้นใหญ่ นั้นเอง
ดังนั้น การใช้ Market Breadth ค่าความแตกต่างของหุ้นที่ทำ New Low และ New High จะช่วยตรวจสอบสภาพ หรือความแข็งแกร่งของเทรนได้เป็นอย่างดี เช่น ตลาดที่ขึ้นมา แล้วใกล้จะหมดเทรน จะมีจำนวนหุ้นที่ปรับตัวลงมากขึ้น แต่ราคายังคงไปต่อด้วยหุ้นใหญ่ นั้นเอง
![]() |
ABXC (Amibroker Extreme Course) by Thaiquants.com
|
************************************************************************************************
ดังนั้น การให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมของตลาด เป็นข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก เพราะเราจะสามารถรู้แนวโน้มของตลาดได้นั้นเอง
************************************************************************************************
No comments:
Post a Comment